ต้อนรับสังคมผู้สูงอายุด้วยไอเดียแต่งบ้าน แต่งยังไงให้สวยและปลอดภัย

          การติดต่อ นายหน้าขายบ้าน เพื่อเลือกซื้อที่อยู่อาศัย นอกจากงบประมาณที่มีแล้ว จำนวนสมาชิกภายในบ้านก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง โดยมีการคาดการณ์จากสำนักงานสถิติแห่งชาติว่าประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้อายุอย่างชัดเจนในปี 2564 และในปี 2574 ประเทศไทยจะขึ้นเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนที่มีจำนวนผู้สูงอายุมากที่สุด ที่สำคัญในปี 2579 ในประเทศไทยจะมีสูงอายุนับเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ

                ดังนั้นเมื่อเลือกซื้อบ้านที่เหมาะสมได้แล้ว จะต้องมีการตกแต่งภายในบ้านให้มีความพร้อมสำหรับรองรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุเพื่อความปลอดภัยด้วย ไอเดียการแต่งบ้านในบทความนี้จึงเป็นไอเดียที่ช่วยตกแต่งบ้านให้สวยไม่ล้าสมัย และยังมีความปลอดภัยต่อผู้สูงอายุร่วมด้วย

4  ไอเดียตกแต่งภายในบ้านเพื่อความสุขของทุกวัยในครอบครัว

                นอกจากความปลอดภัยภายในบ้านแล้ว ขอแนะนำให้การตกแต่งภายในบ้านจะต้องมีความสะดวกสบาย และใช้พื้นที่ใช้สอยได้อย่างคุ้มค่า ดังต่อไปนี้

1.   ผู้สูงอายุจะต้องเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก

          ครอบครัวส่วนใหญ่ในประเทศไทยผู้สูงอายุจะเป็นผู้ที่ต้องอยู่ลำพังภายในบ้านระหว่างช่วงเวลาทำงานมากที่สุด ดังนั้นการตกแต่งภายในบ้านควรจะมีจุดให้ผู้สูงอายุได้เกาะ ยึด หรือค้ำยัน เพื่อการเคลื่อนไหวที่สะดวก เช่น ราวบันไดควรมีขนาดถนัดมือทำจากวัสดุที่ไม่ลื่น, ห้องต่าง ๆ ที่ผู้สูงอายุมักจะใช้งานบ่อย ๆ ควรมีราวยึดติดกับกำแพง, ห้องน้ำควรมีราวสำหรับยึดเกาะได้ง่าย ไม่สูงและไม่ต่ำจนเกินไป เป็นต้น

2.   พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านไม่รกเกะกะ

          เพราะการก้าวเดินของผู้สูงอายุไม่มีความคล่องตัวเหมือนวัยอื่น ๆ การยกขา หรือระยะการมองเห็นมีความสามารถลดลง การจัดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านจึงไม่ควรมีสิ่งของวางเกะกะตามพื้น ควรมีชั้นติดผนังหรือตู้ตั้งพื้นสำหรับจัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบ นอกจากจะเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้สูงอายุแล้ว ยังสะท้อนถึงความมีระเบียบวินัยของเจ้าของบ้านอีกด้วย

3.   ใช้วัสดุปูพื้นที่ได้มาตรฐาน

          วัสดุปูพื้นนั้นมีอยู่หลายเกรดด้วยกัน และสำหรับบ้านที่มีผู้สูงอายุควรติดต่อ นายหน้าขายบ้าน เพื่อเลือกซื้อบ้านที่มีนวัตกรรม Elder Care เพื่อผู้สูงอายุ หรือคุณอาจจะต้องลงทุนเปลี่ยนวัสดุปูพื้นให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ เช่น เลือกปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตหนาพิเศษ 12 มิลลิเมตร เพื่อป้องกันลื่นและมีความนุ่มสบายเท้าเมื่อก้าวเดิน, เลือกใช้กระเบื้องยางรองรับการกระแทกและไม่ลื่น และหากเลือกปูพื้นด้วยไม้แท้ไม่ควรขัดจนเงาวาว เพราะเสี่ยงต่อการลื่นล้ม เป็นต้น

4.   เพิ่มความสวย ลดความอับทึบ

          ผู้สูงอายุนั้นมีความรู้สึกวิตกกังวลสูงกว่าวัยอื่น การได้อยู่ภายในบ้านที่กั้นผนังทึบจะสร้างความรู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ และไม่ปลอดภัยให้แก่ผู้สูงอายุ ไม่เพียงเท่านั้นสมาชิกคนอื่นภายบ้านก็จะมีความรู้สึกอึดอัดคับแคบไปด้วย การเปลี่ยนผนังเป็นระบบประตูกระจกแบบบานเลื่อน หรือเพิ่มระบบหน้าต่างแบบบานเลื่อนเข้ามา จะช่วยให้บ้านโล่งมีแสงสว่างส่องทั่วถึง ผู้สูงอายุสามารถมองผ่านไปเห็นห้องต่าง ๆ ได้ มอบความรู้สึกสบายใจและลดความหวาดระแวง อีกทั้งยังสร้างบรรยากาศบ้านให้มีความโปร่งสบายอีกด้วย

การตกแต่งห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ

                ห้องนอนของผู้สูงอายุจะเป็นห้องที่ใช้งานมากที่สุด เนื่องจากผู้สูงอายุเริ่มไม่มีความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว และรักที่จะอยู่ในมุมเงียบสงบเพื่องีบหลับ หรือทำกิจกรรมโปรดระหว่างวัน ดังนั้นควรเลือกตำแหน่งห้องที่ชั้น 1 ของบ้าน และอยู่ในมุมที่มองเห็นสวนนอกบ้าน หากไม่มีสวนควรจัดสวนกระถางเล็ก ๆ แขวนหรือจัดวางไว้ภายในห้อง เพื่อให้ผู้สูงอายุได้ผ่อนคลาย และใกล้ชิดกับธรรมชาติ

                การจัดวางเตียงนอนควรเลือกชุดเครื่องนอนที่มีความสูงไม่มากนัก อยู่ที่ประมาณ 40 เซนติเมตร และควรมีพื้นที่รอบเตียงนอนทั้ง 3 ด้าน เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถเดินขึ้นเตียงได้จากทุกมุมภายในห้อง และระบบประตูทั้งประตูห้องน้ำ ประตูห้องนอน หน้าต่าง และประตูตู้เสื้อผ้า ควรเลือกใช้แบบบานเลื่อน เพื่อการใช้งานที่มีความสะดวกและปลอดภัย

          นอกจากนี้ควรปรึกษา นายหน้าขายบ้าน เพื่อเลือกทำเลบ้านที่ใกล้กับสถานพยาบาล รวมไปถึงควรเลือกระบบ Automation ที่เชื่อมต่อตัวคุณและบ้านผ่านแอปพลิเคชัน เช่น ระบบแจ้งเตือนที่ติดบริการหัวเตียงของผู้สูงอายุ ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น หรือห้องอื่น ๆ ที่ผู้สูงอายุใช้งานเป็นประจำ เพื่อให้ผู้ดูแลรู้ได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน และทั้งหมดนี้คือไอเดียของบ้านที่สมาชิกทุกคนและทุกวัยในครอบครัวสามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยมีทั้งความสวยงามและความปลอดภัย